วันพฤหัสบดีที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2560

บันทึกการเรียนครั้งที่ 11
วันพุธที่ 15 มีนาคม 2560

เนื้อหาการเรียนการสอน

การจัดประสบการณ์การศึกษาแบบเรียนรวมสำหรับเด็กปฐมวัย

รูปแบบการจัดการศึกษา
   • การศึกษาปกติทั่วไป (Regular Education)
   • การศึกษาพิเศษ (Special Education)
   • การศึกษาแบบเรียนร่วม  (Integrated Education หรือ Mainstreaming)
   • การศึกษาแบบเรียนรวม  (Inclusive Education)
การจัดการศึกษาสำหรับเด็กที่มีความต้องการพิเศษ
      เด็กที่มีความต้องการพิเศษทุกคนสามารถเรียนรู้และพัฒนาได้ถ้าได้รับโอกาสในการเรียนรู้
ที่เหมาะสมกับความต้องการพิเศษของเขา
ความหมายของการศึกษาแบบเรียนร่วม (Integrated Education หรือ Mainstreaming)
   • การจัดให้เด็กพิเศษเข้าไปในระบบการศึกษาทั่วไป
   • มีกิจกรรมที่ให้เด็กพิเศษกับเด็กทั่วไปได้ทำร่วมกัน
   • ใช้ช่วงเวลาช่วงใดช่วงหนึ่งในแต่ละวัน
   • ครูปฐมวัยและครูการศึกษาพิเศษร่วมมือกัน
การเรียนร่วมบางเวลา (Integration) 
   • การจัดให้เด็กพิเศษเรียนในโรงเรียนปกติในบางเวลา
   • เด็กพิเศษได้มีโอกาสแสดงออก และมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับเด็กปกติ
   • เป็นเด็กพิเศษที่มีความพิการระดับปานกลางถึงระดับมาก จึงไม่อาจเรียนร่วมเต็มเวลาได้ 
การเรียนร่วมเต็มเวลา (Mainstreaming)
   • การจัดให้เด็กพิเศษเรียนในโรงเรียนปกติตลอดเวลาที่เด็กอยู่ในโรงเรียน
   • เด็กพิเศษได้รับการจัดกระบวนการเรียนรู้และบริการนอกห้องเรียนเหมือนเด็กปกติ
   • มีเป้าหมายเพื่อให้เด็กเข้าใจซึ่งกันและกัน ตอบสนองความต้องการซึ่งกันและกัน
     และมีปฏิสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน
   • เด็กปกติจะยอมรับความหลากหลายของมนุษย์ เข้าใจว่าคนเราเกิดมาไม่จำเป็นต้องเหมือนกัน
     ทุกอย่าง ท่ามกลางความแตกต่างกัน มนุษย์เราต้องการความรัก ความสนใจ ความเอาใจใส่
     เช่นเดียวกันทุกคน
ความหมายของการศึกษาแบบเรียนรวม (Inclusive Education)
   • การศึกษาสำหรับทุกคน
   • รับเด็กเข้ามาเรียนรวมกันตั้งแต่เริ่มเข้ารับการศึกษา
   • จัดให้มีบริการพิเศษตามความต้องการของแต่ละบุคคล
Wilson , 2007
   • การจัดการเรียนการสอนที่ยึดปรัชญาของการอยู่รวมกัน (Inclusion) เป็นหลัก
   • การสอนที่ดี เป็นการสอนที่ครูกับนักเรียนช่วยกันให้ทุกคนเป็นสมาชิกที่ดีของชุมชน
   • กิจกรรมทุกชนิดที่จะนำไปสู่การสอนที่ดี (Good Teaching) ต้องคิดอย่างรอบคอบเพื่อหา
     หนทางให้นักเรียนทุกคนสามารถเรียนได้
   • เป็นการกำหนดทางเลือกหลายๆ ทาง

     "Inclusive Education is Education for all,
It involves receiving people
at the beginning of their education,
with provision of additional services
needed by each individual"
สรุปความหมายของการศึกษาแบบเรียนรวม
   • เป็นการจัดการศึกษาที่จัดให้เด็กพิเศษเข้ามาเรียนรวมกับเด็กปกติ โดยรับเข้ามาเรียนรวมกัน 
     ตั้งแต่เริ่มเข้ารับการศึกษาและจัดให้มีบริการพิเศษตามความต้องการของแต่ละบุคคล
   • เด็กพิเศษทุกคนสามารถเรียนรู้และพัฒนาได้ถ้าได้รับโอกาสในการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับควา
     ต้องการพิเศษของเขา
   • เกิดจากปรัชญาการศึกษาที่กล่าวไว้ว่า การศึกษาสำหรับทุกคน (Education for All)
   • การเรียนรวม เป็นแนวคิดทางการศึกษาอย่างหนึ่งที่โรงเรียนจะต้องจัดการศึกษาให้กับเด็กทุกคน
     โดยไม่มีการแบ่งแยกว่าเด็กคนใดเป็นเด็กปกติ หรือเด็กคนใดเป็นเด็กที่มีความต้องการพิเศษ
   • เด็กเลือกโรงเรียนไม่ใช่โรงเรียนเลือกเด็ก
   • เด็กทุกคนที่ผู้ปกครองพาเข้ามาโรงเรียนทางโรงเรียนจะต้องรับเด็กไว้ และจะต้องจัดการศึกษา
     ให้อย่างเหมาะสม และดำเนินการเรียนในลักษณะ “รวมกัน” ที่ทุกคนต่างเป็นส่วนหนึ่ง ของสังคม 
     ทุกคนยอมรับซึ่งกันและกัน
   • ทุกคนยอมรับว่ามี ผู้พิการ อยู่ในสังคมและเขาเหล่านั้นต่างก็เป็นส่วนหนึ่งของสังคมที่จะต้อง
     ใช้ชีวิตร่วมกันกับคนปกติ โดยไม่มีการแบ่งแยก
ความสำคัญของการศึกษาแบบเรียนรวมสำหรับเด็กปฐมวัย
   • ปฐมวัยเป็นช่วงเวลาสำคัญที่สุดของการเรียนรู้
   • “สอนได้”
   • เป็นการจัดการศึกษาสำหรับเด็กพิเศษที่มีขีดจำกัดน้อยที่สุด
บทบาทครูปฐมวัยในห้องเรียนรวม
  ครูไม่ควรวินิจฉัย
   • การวินิจฉัย หมายถึงการตัดสินใจโดยดูจากอาการหรือสัญญาณบางอย่าง
   • จากอาการที่แสดงออกมานั้นอาจนำไปสู่ความเข้าใจผิดได้
  ครูไม่ควรตั้งชื่อหรือระบุประเภทเด็ก
   • เกิดผลเสียมากกว่าผลดี
   • ชื่อเปรียบเสมือนตราประทับตัวเด็กตลอดไป
   • เด็กจะกลายเป็นเช่นนั้นจริงๆ
  ครูไม่ควรบอกพ่อแม่ว่าเด็กมีบางอย่างผิดปกติ
   • พ่อแม่ของเด็กพิเศษ มักทราบดีว่าลูกของเขามีปัญหา
   • พ่อแม่ไม่ต้องการให้ครูมาย้ำในสิ่งที่เขารู้อยู่แล้ว
   • ครูควรพูดในสิ่งที่เป็นความคาดหวังในด้านบวก แต่ต้องไม่ให้เกิดความหวังผิดๆ
   • ครูควรรายงานผู้ปกครองว่าเด็กทำอะไรได้บ้าง เท่ากับเป็นการบอกว่าเด็กทำอะไรไม่ได้
   • ครูช่วยให้ผู้ปกครองมีความหวังและเห็นแนวทางที่จะช่วยให้เด็กพัฒนา
  ครูทำอะไรบ้าง
   • ครูสามารถชี้ให้เห็นถึงพฤติกรรมของเด็กในเรื่องที่เกี่ยวกับพัฒนาการต่างๆ
   • ให้ข้อแนะนำในการหาบุคลากรที่เหมาะสมในการประเมินผลหรือวินิจฉัย
   • สังเกตเด็กอย่างมีระบบ
   • จดบันทึกพฤติกรรมเด็กเป็นช่วงๆ
  สังเกตอย่างมีระบบ
   • ไม่มีใครสามารถสังเกตอย่างมีระบบได้ดีกว่าครู
   • ครูเห็นเด็กในสถานการณ์ต่างๆ ช่วงเวลายาวนานกว่า
   • ต่างจากแพทย์ นักจิตวิทยา นักคลินิก มักมุ่งความสนใจอยู่ที่ปัญหา
  การตรวจสอบ
   • จะทราบว่าเด็กมีพฤติกรรมอย่างไร
   • เป็นแนวทางสำคัญที่ทำให้ครูและพ่อแม่เข้าใจเด็กดีขึ้น
   • บอกได้ว่าเรื่องใดบ้างที่เด็กต้องการความช่วยเหลือ
  ข้อควรระวังในการปฏิบัติ
   • ครูต้องไวต่อความรู้สึกและตัดสินใจล่วงหน้าได้
   • ประเมินให้น้ำหนักความสำคัญของเรื่องต่างๆได้
   • พฤติกรรมบางอย่างของเด็กไม่ได้ปรากฏให้เห็นเสมอไป
  การบันทึกการสังเกต
   • การนับอย่างง่ายๆ
   • การบันทึกต่อเนื่อง
   • การบันทึกไม่ต่อเนื่อง
  การนับอย่างง่ายๆ
   • นับจำนวนครั้งของการเกิดพฤติกรรม
   • กี่ครั้งในแต่ละวัน กี่ครั้งในแต่ละชั่วโมง
   • ระยะเวลาในการเกิดพฤติกรรม
  การบันทึกต่อเนื่อง
   • ให้รายละเอียดได้มาก
   • เขียนทุกอย่างที่เด็กทำในช่วงเวลาหนึ่ง หรือช่วงกิจกรรมหนึ่ง
   • โดยไม่ต้องเข้าไปแนะนำช่วยเหลือ



การบันทึกเป็นคำๆ




  การบันทึกไม่ต่อเนื่อง
   • บันทึกลงบัตรเล็กๆ
   • เป็นการบันทึกสั้นๆเกี่ยวกับพฤติกรรมของเด็กแต่ละคนในช่วงเวลาหนึ่



  การเกิดพฤติกรรมบางอย่างมากเกินไป
   • ควรเอาใจใส่ถึงระดับความมากน้อยของความบกพร่อง มากกว่าชนิดองความบกพร่อง
   • พฤติกรรมไม่เหมาะสมที่พบได้ในเด็กทุกคน ไม่ควรจัดเป็นสิ่งผิดปกติ
  การตัดสินใจ
   • ครูต้องตัดสินใจด้วยความระมัดระวัง
   • พฤติกรรมของเด็กที่เกิดขึ้น ไปขัดขวางความสามารถในการเรียนรู้ของเด็กหรือไม่


เพิ่มเติม

วีดีโอการแสดงความสามารถพิเศษของเด็กพิเศษ


น้องช่อแก้ว (เด็กดาวน์ซินโดรม)
ความสามารถพิเศษในการเล่นดนตรีไทย ประเภท "ตีขิม"





กิจกรรม การวาดรูปดอกบัว 
(การสังเกตและเขียนคำบรรยายจากการสังเกตโดยละเอียด)



ผลงานของฉัน

 



ความรู้ที่ได้รับและการนำไปใช้
         ได้ความรู้เกี่ยวกับเด็กพิเศษและเด็กที่มีความบกพร่องทางด้านต่างๆ และยังได้ทบทวนความรู้
เดิมจากการเรียนการสอนเด็กพิเศษที่ผ่านมา สามารถนำไปใช้ให้เกิดความจำที่แม่นยำที่ดีกว่าเดิม


การประเมิน
   - ประเมินตนเอง : ตั้งใจเรียน ตั้งใจฟังอาจารย์อธิบาย 
   - ประเมินเพื่อน   : ตั้งใจเรียน ให้ความร่วมมือในการฟังเมื่อครูสอน
   - ประเมินอาจารย์ : ตรงต่อเวลา เตรียมการสอนมาได้ครบถ้วนและดีมาก



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น