วันอังคารที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2560

บันทึกการเรียนครั้งที่ 12
วันพุธที่ 22 มีนาคม 2560

เนื้อหาการเรียนการสอน

การส่งเสริมพัฒนาการและการปรับพฤติกรรมเด็กปฐมวัย
ที่มีความต้องการพิเศษ

        • เพื่อให้เด็กสามารถช่วยเหลือตนเองได้ในชีวิตประจำวัน

• ใช้ชีวิตอยู่ในสังคมได้ใกล้เคียงกับคนปกติมากที่สุด 

• เน้นการดูแลแบบองค์รวม (Holistic Approach)
1. การฟื้นฟูสมรรถภาพทางการศึกษา
   • เพิ่มทักษะพื้นฐานด้านสังคม การสื่อสาร และทักษะทางความคิด
   • เกิดผลดีในระยะยาว
   • เน้นการเตรียมความพร้อมเพื่อให้เด็กสามารถใช้ในชีวิตประจำวันจริงๆแทนการฝึกแต่เพียง
     ทักษะทางวิชาการ
   • แผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล (Individualized Education Program; IEP)
   • โรงเรียนการศึกษาพิเศษเฉพาะทาง โรงเรียนเรียนร่วม ห้องเรียนคู่ขนาน
2. การฟื้นฟูสมรรถภาพทางสังคม
   • การฝึกฝนทักษะในชีวิตประจำวัน (Activity of Daily Living Training)
   • การฝึกฝนทักษะสังคม (Social Skill Training)
   • การสอนเรื่องราวทางสังคม (Social Story)
3. การบำบัดทางเลือก
   • การสื่อความหมายทดแทน (AAC)
   • ศิลปกรรมบำบัด (Art Therapy)
   • ดนตรีบำบัด (Music Therapy)
   • การฝังเข็ม (Acupuncture)
   • การบำบัดด้วยสัตว์ (Animal Therapy)
การสื่อความหมายทดแทน  
(Augmentative and Alternative Communication ; AAC)
        • การรับรู้ผ่านการมอง (Visual Strategies)

• โปรแกรมแลกเปลี่ยนภาพเพื่อการสื่อสาร 
   
   (Picture Exchange Communication System; PECS)

• เครื่องโอภา (Communication Devices)

• โปรแกรมปราศรัย
      
Picture Exchange
Communication System (PECS)





บทบาทของครู
   • ตำแหน่งการนั่งของเด็กไม่ควรให้นั่งติดหน้าต่างหรือประตู
   • ให้เด็กนั่งแถวหน้าสุดใกล้โต๊ะครู
   • จัดให้เด็กนั่งติดกับนักเรียนที่ไม่ค่อยเล่น ไม่ค่อยคุยในระหว่างเรียน
   • ให้เด็กมีกิจกรรม เปลี่ยนอิริยาบถบ้าง 

การส่งเสริมทักษะต่างๆของเด็กพิเศษ
  1. ทักษะทางสังคม
      • เด็กพิเศษที่ขาดทักษะทางสังคม ไม่ได้มีสาเหตุมาจากการพ่อแม่
      • การอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดีไม่ได้เป็นเครื่องรับประกันว่าเด็กจะมีพัฒนาการต่างๆอย่างมีความสุข
     กิจกรรมการเล่น
      • การเล่นเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งต่อการเรียนรู้ทักษะทางสังคม
      • เด็กจะสนใจกันเองโดยอาศัยการเล่นเป็นสื่อ
      • ในช่วงแรกๆ เด็กจะไม่มองเด็กคนอื่นเป็นเพื่อน  แต่เป็นอะไรบางอย่างที่น่าสำรวจ สัมผัส 
        ผลัก ดึง
     ยุทธศาสตร์การสอน
      • เด็กพิเศษหลายๆคนไม่รู้วิธีเล่น  ไม่รู้ว่าจะเล่นอย่างไร
      • ครูเริ่มต้นจากการสังเกตเด็กแต่ละคนอย่างเป็นระบบ
      • จะบอกได้ว่าเด็กมีทักษะการเล่นแบบใดบ้าง
      • ครูจดบันทึก
      • ทำแผน IEP
     การกระตุ้นการเลียนแบบและการเอาอย่าง
      • วางแผนกิจกรรมการเล่นไว้หลายๆอย่าง
      • คำนึงถึงเด็กทุกๆคน
      • ให้เด็กเล่นเป็นกลุ่มเล็กๆ 2-4 คน
      • เด็กปกติทำหน้าที่เหมือน “ครู” ให้เด็กพิเศษ
     ครูปฏิบัติอย่างไรขณะเด็กเล่น
      • อยู่ใกล้ๆ และเฝ้ามองอย่างสนใจ
      • ยิ้มและพยักหน้าให้ ถ้าเด็กหันมาหาครู
      • ไม่ชมเชยหรือสนใจเด็กมากเกินไป
      • เอาวัสดุอุปกรณ์มาเพิ่ม เพื่อยืดเวลาการเล่น
      • ให้ความคิดเห็นที่เป็นแรงเสริม
     การให้แรงเสริมทางสังคมในบริบทที่เด็กเล่น
      • ครูพูดชักชวนให้เด็กร่วมเล่นกับเพื่อน
      • ทำโดย “การพูดนำของครู”
     ช่วยเด็กทุกคนให้รู้กฎเกณฑ์
      • ไม่ง่ายสำหรับเด็กพิเศษ
      • การให้โอกาสเด็ก
      • เด็กพิเศษต้องเรียนรู้สิทธิต่างๆเหมือนเพื่อนในห้อง
      • ครูต้องไม่ใช้ความบกพร่องของเด็กพิเศษเป็นเครื่องต่อรอง
   
  2. ทักษะภาษา
     การวัดความสามารถทางภาษา
      • เข้าใจสิ่งที่ผู้อื่นพูดไหม
      • ตอบสนองเมื่อมีคนพูดด้วยไหม
      • ถามหาสิ่งต่างๆไหม
      • บอกเล่าเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นไหม
      • ใช้คำศัพท์ของตัวเองกับเด็กคนอื่นไหม
     การออกเสียงผิด / พูดไม่ชัด
      • การพูดตกหล่น
      • การใช้เสียงหนึ่งแทนอีกเสียง
      • ติดอ่าง
     การปฏิบัติของครูและผู้ใหญ่
      • ไม่สนใจการพูดซ้ำหรือการออกเสียงไม่ชัด
      • ห้ามบอกเด็กว่า  “พูดช้าๆ”   “ตามสบาย”   “คิดก่อนพูด”
      • อย่าขัดจังหวะขณะเด็กพูด
      • อย่าเปลี่ยนการใช้มือข้างที่ถนัดของเด็ก
      • ไม่เปรียบเทียบการพูดของเด็กกับเด็กคนอื่น
      • เด็กที่พูดไม่ชัดอาจเกี่ยวข้องกับการได้ยิน
     ทักษะพื้นฐานทางภาษา
      • ทักษะการรับรู้ภาษา
      • การแสดงออกทางภาษา
      • การสื่อความหมายโดยไม่ใช้คำพูด
พฤติกรรมตอบสนองการแสดงออกทางภาษา



พฤติกรรมเริ่มการแสดงออกของเด็ก


    
      ความรับผิดชอบของครูปฐมวัย
      • การรับรู้ภาษามาก่อนการแสดงออกทางภาษา
      • ภาษาที่ไม่ใช่คำพูดมาก่อนภาษาพูด
      • ให้เวลาเด็กได้พูด
      • คอยให้เด็กตอบ (ชี้แนะหากจำเป็น)
      • เป็นผู้ฟังที่ดีและโตต้อบอย่างฉับไว (ครูไม่พูดมากเกินไป)
      • เด็กไม่ได้เรียนรู้ภาษาจากการฟังเพียงอย่างเดียว
      • ให้เด็กทำกิจกรรมกลุ่ม เด็กพิเศษได้มีแบบอย่างจากเพื่อน
      • กระตุ้นให้เด็กบอกความต้องการของตนเอง (ครูไม่คาดการณ์ล่วงหน้า)
      • เน้นวิธีการสื่อความหมายมากกว่าการพูด
      • ใช้คำถามปลายเปิด
      • เด็กพิเศษรับรู้มากเท่าไหร่ ยิ่งพูดได้มากเท่านั้น
      • ร่วมกิจกรรมกับเด็ก
การสอนตามเหตุการณ์(Incidental Teaching)





   3. ทักษะการช่วยเหลือตนเอง
      เรียนรู้การดำรงชีวิตโดยอิสระให้มากที่สุด
                       การกินอยู่
                    การเข้าห้องน้ำ
                      การแต่งตัว
            กิจวัตรต่างๆในชีวิตประจำวัน
     การสร้างความอิสระ
      • เด็กอยากช่วยเหลือตนเอง
      • อยากทำงานตามความสามารถ
      • เด็กเลียนแบบการช่วยเหลือตนเองจากเพื่อน เด็กที่โตกว่า และผู้ใหญ่



     ความสำเร็จเป็นสิ่งสำคัญ
      • การได้ทำด้วยตนเอง
      • เชื่อมั่นในตนเอง
      • เรียนรู้ความรู้สึกที่ดี
     หัดให้เด็กทำเอง
      • ไม่ช่วยเหลือเกินความจำเป็น (ใจแข็ง)
      • ผู้ใหญ่มักทำสิ่งต่างๆให้เด็กมากเกินไป
      • ทำให้แม้กระทั่งสิ่งที่เด็กสามารถทำได้เองหากให้เวลาเขาทำ
      • “ หนูทำช้า ”  “ หนูยังทำไม่ได้ ” 
     จะช่วยเมื่อไหร่
      • เด็กก็มีบางวันที่ไม่อยากทำอะไร , หงุดหงิด , เบื่อ , ไม่ค่อยสบาย
      • หลายครั้งเด็กจะขอความช่วยเหลือในสิ่งที่ได้เรียนรู้ไปแล้ว
      • เด็กรู้สึกว่ายังมีผู้ใหญ่ที่พึ่งได้ แต่ต้องได้รับความช่วยเหลือเฉพาะสิ่งที่เด็กต้องการ
      • มักช่วยเด็กในช่วงกิจกรรม

ทักษะการช่วยเหลือตนเอง (อายุ 2-3 ปี)



ทักษะการช่วยเหลือตนเอง (อายุ 3-4 ปี)



ทักษะการช่วยเหลือตนเอง (อายุ 4-5 ปี)



ทักษะการช่วยเหลือตนเอง (อายุ 5-6 ปี)


     ลำดับขั้นในการช่วยเหลือตนเอง
      • แบ่งทักษะการช่วยเหลือตนเองออกเป็นขั้นย่อยๆ
      • เรียงลำดับตามขั้นตอน
     การเข้าส้วม
      • เข้าไปในห้องส้วม
      • ดึงกางเกงลงมา
      • ก้าวขึ้นไปนั่งบนส้วม
      • ปัสสาวะหรืออุจจาระ
      • ใช้กระดาษชำระเช็ดก้น
      • ทิ้งกระดาษชำระในตะกร้า
      • กดชักโครกหรือตักน้ำราด
      • ดึงกางเกงขึ้น
      • ล้างมือ
      • เช็ดมือ
      • เดินออกจากห้องส้วม


    สรุป
      • ครูต้องพยายามให้เด็กทำสิ่งต่างๆด้วยตนเอง
      • ย่อยงานแต่ละอย่างเป็นขั้นๆ
      • ความสำเร็จขั้นเล็กๆนำไปสู่ความสำเร็จทั้งมวล
      • ช่วยให้เด็กมีความมั่นใจในตนเอง
      • เด็กพึ่งตนเองได้ รู้สึกเป็นอิสระ
  
  4. ทักษะพื้นฐานทางการเรียน
     เป้าหมาย
      • การช่วยให้เด็กแต่ละคนเรียนรู้ได้ 
      • มีความรู้สึกดีต่อตนเอง
      • เด็กรู้สึกว่า “ฉันทำได้”
      • พัฒนาความกระตือรือร้น อยากรู้อยากเห็น
      • อยากสำรวจ อยากทดลอง
     ช่วงความสนใจ
      • ต้องมีก่อนการเรียนรู้อื่นๆ
      • จดจ่อต่อกิจกรรมในช่วงเวลาหนึ่งได้นานพอสมควร
    
     การเลียนแบบ
     การทำตามคำสั่ง คำแนะนำ
      • เด็กได้ยินสิ่งที่ครูพูดชัดหรือไม่
      • เด็กเข้าใจคำศัพท์ที่ครูใช้หรือไม่
      • คำสั่งยุ่งยากซับซ้อนไปหรือไม่
     การรับรู้ การเคลื่อนไหว
      • ได้ยิน เห็น สัมผัส ลิ้มรส กลิ่น
                        V
                        V
                        V
      ตอบสนองอย่างเหมาะสม
     การควบคุมกล้ามเนื้อเล็ก
      • การกรอกน้ำ ตวงน้ำ
      • ต่อบล็อก
      • ศิลปะ
      • มุมบ้าน
      • ช่วยเหลือตนเอง



     ตัวอย่างอุปกรณ์สำหรับเด็กพิเศษ
      • ลูกปัดไม้ขนาดใหญ่
      • รูปต่อที่มีจำนวนชิ้นไม่มาก








     ความจำ
      • จากการสนทนา
      • เมื่อเช้าหนูทานอะไร
      • แกงจืดที่เรากินใส่อะไรบ้าง
      • จำตัวละครในนิทาน
      • จำชื่อครู เพื่อน
      • เล่นเกมทายของที่หายไป
     การวางแผนการเตรียมพื้นฐานทางวิชากา
      • จัดกลุ่มเด็ก
      • เริ่มต้นเรียนรู้โดยใช้ช่วงเวลาสั้นๆ
      • ให้งานเด็กแต่ละคนอย่างชัดเจนว่าต้องทำที่ไหน
      • ติดชื่อเด็กตามที่นั่ง
      • ใช้อุปกรณ์ที่เด็กคุ้นเคย
      • ใช้อุปกรณ์ที่เด็กคุ้นเคย
      • บันทึกว่าเด็กชอบอะไรที่สุด
      • รู้ว่าเมื่อไหร่จะเปลี่ยนงาน
      • มีอุปกรณ์ไว้สับเปลี่ยนใกล้มือ
      • เตรียมทุกอย่างให้พร้อมก่อนเด็กมาถึง
      • พูดในทางที่ดี
      • จัดกิจกรรมให้เด็กได้เคลื่อนไหว
      • ทำบทเรียนให้สนุก


เพิ่มเติม
     * IEP >> แผนสำหรับเด็กพิเศษ (แผนระยะยาวทำขึ้นเพื่อใช้กับเด็กคนเดียว)
     * ห้องเรียนคู่ขนาน >> คือห้องเรียนสำหรับเด็กออทิสติก
     * เด็กพิเศษเรียนรู้ผ่านการเลียนแบบเพื่อน


ความรู้ที่ได้รับและการนำไปใช้
         ได้ความรู้เกี่ยวกับเด็กพิเศษและเด็กที่มีความบกพร่องทางด้านต่างๆ และยังได้ทบทวนความรู้
เดิมจากการเรียนการสอนเด็กพิเศษที่ผ่านมา สามารถนำไปใช้ให้เกิดความจำที่แม่นยำที่ดีกว่าเดิม

การประเมิน
   - ประเมินตนเอง : ตั้งใจเรียน ตั้งใจฟังอาจารย์อธิบาย 
   - ประเมินเพื่อน   : ตั้งใจเรียน ให้ความร่วมมือในการฟังเมื่อครูสอน
   - ประเมินอาจารย์ : ตรงต่อเวลา เตรียมการสอนมาได้ครบถ้วนและดีมาก


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น